Image default
เทคนิคการเทรด Forex

Dow Theory คืออะไร

Dow Theory คืออะไร

Dow Theory คืออะไร  หรือที่เทรดเดอร์บางรายเรียกว่า ทฤษฎีดาว มีอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว ผู้คิดค้น คือ Mr. Charles Henry Dow ซึ่งเป็นผู้พัฒนาการวิเคราะห์ทางเทคนิค การเก็งกำไร รวมทั้งกฎ Industrial average ในตลาดหุ้น จนทำให้เกิดทฤษฎีใหม่ ๆ ขึ้นมาในช่วงนั้น

 

Dow Theory คืออะไร

 

Mr. Charles Henry Dow ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการให้กับหนังสือพิมพ์ The wall street journal ซึ่งหนังสือพิมพ์ฉบับนี้จะเขียนรายงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงิน รวมทั้งหุ้นต่าง ๆ แต่ในสมัยนั้นยังไม่มีดัชนีอะไร จึงเป็นเรื่องยากที่จะเขียนให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย เขาจึงคิดดัชนีขึ้นมาใหม่ ใช้ชื่อตัวเขากับเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วน ให้ชื่อว่า ดัชนีดาวโจนส์ โดยเอาหุ้นชั้นนำจำนวนหนึ่งมาคำนวณเป็นดัชนี แล้วใช้เป็นตัวอ้างอิง เพื่อจะได้สื่อกับผู้อ่านได้ว่า วันนี้ดัชนีดาวโจนส์ขึ้นหรือลงมากน้อยเพียงใด รวมทั้งมีการนำตัวเลขดัชนีมาเขียนเป็นกราฟ ให้ผู้อ่านสามารถมองเห็นรูปแบบที่แสดงความสัมพันธ์ของราคาและปริมาณการซื้อขายกับแกนวันเวลา (Price Pattern) เพื่อที่จะสามารถคาดคะเนแนวโน้มได้

 

 

Mr. Charles Henry Dow เสียชีวิตลงในปี 1902 แต่หลังจากนั้นก็ยังคงมีหนังสือออกใหม่มากมายที่อธิบายเกี่ยวกับทฤษฎีของเขา เช่น The ABC of stock speculation และ The stock market barometer จากกฏหรือหลักการรวมทั้งแนวคิดต่าง ๆ ของเขาทั้งหมด ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นเป็นบิดาแห่งการวิเคราะห์ทางเทคนิคของฝั่งตะวันตก แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานแล้ว แต่ทฤษฎีของ Dow ยังคงถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคทั้งในตลาดหุ้นและตลาด forex อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการต่อยอดพัฒนามาเป็นการนับคลื่นใน Elliott wave หรืออื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งวันนี้เราจะมาสรุปกันว่า ทฤษฎีที่ Mr. Charles Henry Dow ได้กล่าวไว้นั้น มีเนื้อหาอย่างไรบ้าง

 

Dow Theory คืออะไร

 

Dow Theory คืออะไร แบ่งออกเป็น 6 หลักการสำคัญ ได้แก่

  1. ตลาดมีการเคลื่อนไหวหลักจำนวน 3 รูปแบบ ดังนี้

แนวโนมโหญ่ (The main movement or Primary trend) =  1-3 ปี หรือมากกว่า

แนวโน้มกลาง(The medium swing or Intermediate trend) =  3 สัปดาห์ – 3 เดือน หรือมากกว่า

แนวโน่้มระยะสั้น (The short swing or Minor trend) = รายวัน – เดือน หรือมากกว่า

  1. ตลาดหุ้นมี Trend แบ่งเป็น 3 ช่วง (Market trends have three phases) ดังนี้

ช่วงสะสมหุ้น (The accumulation phase)

ช่วงมหาชนมีส่วนร่วม (The public participation phase)

ช่วงแจกจ่ายหรือปล่อยของ (The distribution phase)

  1. ราคาสะท้อนทุกอย่างในตลาด (The prices reflect the market already)

 

  1. ทุกอย่างต้องมีความสอดคล้องกัน (Market Indexes Must Confirm Each Other)
  2. หากตลาดจะมีเทรนด์ ต้องมีปริมาณยืนยัน (Volume Must Confirm The Trend)
  3. ราคาจะขึ้นจนกว่าจะไม่ขึ้น และจะลงจนกว่าจะลง (Trends exist until definitive signals prove that they have ended)

 

อย่างไรก็ตาม การเทรดในตลาด forex นิยมเล่นในช่วงสั้น หากอาศัยกฏและหลักการตาม Dow Theory ไทม์เฟรมที่เหมาะสมก็คือ แนวโน้มใหญ่=MN- W1  แนวโน้มกลาง= D1-H4  และแนวโน้มย่อยระยะสั้น = H1-M1

 


Related posts

แนะทริคเพื่อคว้าชัยชนะใน contests

Admin

เปลี่ยนสีเส้นสเปรด ด้วย Blue spread

Admin

EA หรือ Expert Advisors คือ อะไร

Admin

Leave a Comment