Moving Average
Moving Average คือ หนึ่งในอินดิเคเตอร์ยอดฮิตตลอดกาล ด้วยความที่เป็นอินดี้ที่มีพื้นฐานง่าย ๆ แต่ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงทำให้ MovingAverage เป็นเครื่องมือช่วยเทรด forex ที่เทรดเดอร์นิยมใช้กันมาตลอด แม้ในปัจจุบัน
Indicator Moving Average
MovingAverage มีชื่อภาษาไทยว่า เส้นค่าเฉลี่ย หรือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ นั่นเอง เป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีสำหรับนักลงทุนด้านเทคนิค หรือ Technical Analyst ซึ่งประโยชน์ของ MovingAverage นั้นก็เพื่อหา Trend หรือแนวโน้มของราคา โดยปกติแล้วเทรดเดอร์จะแบ่ง MovingAverage ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ SMA หรือ Simple MovingAverage และ EMA หรือ Exponential MovingAverage
SMA หรือ Simple MovingAverage
คือ ค่าเฉลี่ยของราคาปิด โดยคำนวณให้ช่วงเวลาปิดในแต่ละช่วงเวลามีน้ำหนักเท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น
ต้องการหา SMA ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา
ราคาปิดของเมื่อวาน 2.5818
ราคาปิดย้อนกลับไป 2 วัน 2.5779
ราคาปิดย้อนกลับไป 3 วัน 2.5756
ราคาปิดย้อนกลับไป 4 วัน 2.5110
ราคาปิดย้อนกลับไป 5 วัน 2.5477
SMA = (2.5818+2.5779+2.5756+2.5110+2.5477) / 5
EMA หรือ Exponential MovingAverage
คือ ค่าเฉลี่ยของราคาปิด โดยคำนวณให้ช่วงเวลาปิดในวันท้าย ๆ มีน้ำหนักมากกว่าตามลำดับ ยกตัวอย่างเช่น
ต้องการหา EMA ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา
ราคาปิดของเมื่อวาน 2.5818
ราคาปิดย้อนกลับไป 2 วัน 2.5779
ราคาปิดย้อนกลับไป 3 วัน 2.5756
ราคาปิดย้อนกลับไป 4 วัน 2.5110
ราคาปิดย้อนกลับไป 5 วัน 2.5477
EMA = [(2.5818*5)+(2.5779*4)+(2.5756*3)+(2.5110*2)+(2.5477*1)]
(5+4+3+2+1)
จากการคำนวณที่แตกต่างกัน ทำให้ผลที่ได้มีคุณสมบัติแตกต่างกันไปด้วย หากจะพูดถึงความแตกต่างดดยรวม ก็สามารถบอกได้ว่า SMA จะมีความอ่อนไหวต่อราคาน้อยกว่า EMA นั่นเอง
หากในช่วงที่ผ่านมา ตลาดอยู่ในช่วง uptrend มาตลอด แต่ราคาเมื่อวานถูกตีกลับลงมามาก EMA จะเริ่มแสดงผลบอก Downtrend ในขณะที่ SMA จะยังคงแสดงผลว่า Uptrend อยู่เหมือนเดิม ซึ่งความว่องไวของ EMA นี้ เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์เพื่อเข้าซื้อขายในจุดกลับตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องระวังให้มาก เพราะความว่องไวนี้อาจส่งสัญญาณหลอก หรือ False Signal ได้ง่ายกว่า SMA ซึ่งมีความนิ่งกว่า
ตั้งค่า Moving Average อย่างไรจึงจะเหมาะสม
จากข้างต้น จะสังเกตได้ว่า MovingAverage นั้นคำนวณตามช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง เช่น 5วัน 7 วัน 10วัน หรือกี่วันก็ได้ ตามความต้องการของเทรดเดอร์ ซึ่งหลักการที่ดีนั้น เทรดเดอร์ควรตั้งค่าช่วงเวลาของ Moving Average ให้เหมาะสมกับรูปแบบการลงทุนของตนเอง โดยมีหลักเบื้องต้นง่าย ๆ ดังนี้
– สำหรับรูปแบบการลงทุนระยะสั้น ควรตั้งค่า Period อยู่ที่ 5-20 วัน
– สำหรับรูปแบบการลงทุนระยะกลาง ควรตั้งค่า Period อยู่ที่ 50-70 วัน
– สำหรับรูปแบบการลงทุนระยะยาว ควรตั้งค่า Period อยู่ที่ 100-200 วัน
เหตุที่ควรตั้งค่า period ให้เหมาะสมกับรูปแบบการลงทุนของตัวเอง ก็เพราะการตั้งค่าให้สั้นเกินไปหรือยาวเกินไป ต่างมีผลเสียด้วยกันทั้งสิ้น ในกรณีที่เทรดเดอร์ตั้งค่าให้มีจำนวนวันมากเกินไป ด้วยค่าเฉลี่ยที่มีความล่าช้า อาจทำให้เทรดเดอร์เสียโอกาสในการทำกำไรในบางช่วงจังหวะได้ ในทางกลับกัน หากตั้งค่าให้มีจำนวนวันสั้นเกินไป ก็อาจส่งผลให้เทรดเดอร์หาจังหวะที่จะเข้าตลาดผิดพลาดได้ เพราะค่าเฉลี่ยมีความว่องไวมากเกินไปนั่นเอง
นับว่า MovingAverage เป็นอีกหนึ่งอินดิเคเตอร์ที่เป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์ forex อย่างมาก แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ก็เป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพ และได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนมาตลอดเช่นกัน